top of page

เราลงเรือกันที่หมู่บ้านชาวประมงทะเลน้อย 

เช่าเรือโดยตกลงราคากับพี่เจ้าของเรือก่อน

เป้าหมายของเราคือสัมผัสแม่น้ำสายใหม่ที่เราเพิ่งได้รู้จักกัน

แม่น้ำประแสร์ 

 

เมื่อเราออกจากหมู่บ้านมาได้สักนิด ความเงียบก็ปรากฏ 

เบื้องหน้าเราคือสายน้ำกว้างใหญ่ สองข้างเป็นป่าชายเลย มีต้นโกงกางและไม้แปลกตาที่เราไม่รู้จัก ความสมบูรณ์ของธรรมชาติปรากฏอยู่ตรงหน้า 

 

เรือพาเราล่องแม่น้ำไปเรื่อยๆ จนถึงปากน้ำประแสร์ สองข้างทางเป็นบ้านเรือนไม้เก่า หากมีเวลาควรขึ้นไปเดินเล่นชมบ้านไม้เก่าเหล่านี้ในยามเช้า กินอาหารสดๆ ที่ตลาดประแส 

 

ทะเลอยู่ตรงหน้าที่ปากน้ำประแสร์

คลื่นเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ปากแม่น้ำกว้างใหญ่จนเราตัวเล็กลง

ฉันบอกเรือให้เกลับเถอะ เพราะเรือเล็กย่อมไม่อาจหาญสู้ทะเลใหญ่ ฉันนอบน้อมกับธรรมชาติเสมอ 

 

แสงยามเย็นทอดไล้มาอย่างอ่อนโยน ทางกลับเราพบกับชายชราที่กำลังงกๆ เงิ่นๆ จับปูอยู่กลางน้ำ เรือเล็กๆ แต่เขายืนทำสิ่งตรงหน้าอย่างมีความสุข คนเรือจอดทักทายชายชราผู้เป็นเพื่อนกับพ่อของเขา แสงตะวันกำลังจะลับฟ้า ชีวิตหนึ่งทำในสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันเพราะ "ฆ่าเวลา" ชายชราบอก อยู่บ้านก็ไม่รู้จะทำอะไร ออกเรือหาปูหาปลาไปเรื่อย 

เรือสองลำหันหัวเรือไปคนละทาง แต่อยู่บนแม่น้ำสายเดียวกัน

บนฟ้ามีเหยี่ยวสยายปีก

ในน้ำมีคนเดินทางแปลกหน้า

เปิดหัวใจรับลม น้ำ และคาระแสงตะวันที่กำลังตกดิน

โลกมีมุมที่งดงามเสมอ

ขอเพียงเราเปิดดวงตา เปิดหัวใจ น้อมรับ

 

 

bottom of page